สำหรับคนที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์ที่นอกเหนือจากหมาแมวแล้ว เต่าก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมเช่นกัน โดยเจ้า เต่าซูคาต้า นั้นเป็นเต่าบกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกาเเละมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่ เต่าอัลดาบ้าและ เต่ากาลาปากอส ด้วยหน้าตาที่น่ารักของมันทำให้มีมือใหม่ที่อยากจะเลี้ยงน้องเต่าขึ้นมา แต่ก็มีคำถามมากมาย วันนี้เราจึงจะชวนทุกคนมาชมกับ 5 คำถามยอดฮิตสำหรับมือใหม่ที่อยากเลี้ยง เต่าซูคาต้ากัน
เต่าซูคาต้า อยู่ในอนุสัญญาไซเตสหรือไม่?
เต่าซูคาต้าจัดว่าเป็นเต่าบกขนาดใหญ่อันดับที่ 3 ของโลกเเละยังอยู่ในไซเตส หรือ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ในบัญชีหมายเลขที่ 2 สถานะของเต่าบกซูคาต้านั้นอยู่ใน ระดับถูกคุกคาม แต่ไม่ได้ถูกจัดว่าอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ จึงสามารถทำการค้าได้ แต่จะต้องมีใบที่ได้รับรองจาก ไซเตสเท่านั้นเมื่อนำเข้าหรือส่งออก แต่ถ้าจำหน่ายซื้อขายภายในประเทศ ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาติ
” ไซเตส คืออะไร สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนเลี้ยงสัตว์ Exotic “
เต่าซูคาต้า ดุและกัดหรือไม่
เต่าซูคาต้าเป็นเต่าบก ที่มีนิสัยไม่ดุร้าย ไม่กัด รวมถึงไม่ทำร้ายอีกด้วย โดยสามารถป้อนอาหารด้วยมือกับน้องได้ ทั้งนี้ตอนป้อนต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจจะมีกลิ่นผักติดมือ เต่าซูคาต้าอาจจะคิดว่านิ้วเป็นผักได้ แต่โดยธรรมชาติ เต่าซูคาต้าจะไม่กัด ไม่ทำร้ายคน ทั้งยังสามารถเลี้ยงให้เชื่องได้ไม่ยาก และยังเป็นมิตรกับสัตว์ประเภทอื่นอีกด้วย
เต่าซูคาต้า กินอะไรเป็นอาหาร
เต่าบกซูคาต้า เป็นเต่ากินพืชเป็นอาหารหลัก โดยในธรรมชาติน้องจะอาศัยอยู่ในทะเลทราย หรือทุ่งหญ้าแห้ง ๆ ซึ่งน้องจะกินพวกหญ้าต่าง ๆ วัชพืน เป้นอาหารหลัก แต่ถ้านำมาเลี้ยงนั้น อาหารการกินจะค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งน้องสามารถกินหญ้า หรือผักต่าง ๆ ได้ โดยจะเน้นเป็นอาหารที่มีเส้นใย ไฟเบอร์สูง ไม่แนะนำให้กินผักที่มีส่วนประกอบน้ำเยอะมากเกินไป หรือทางที่ดีที่สุด ก็คือให้น้องทานอาหารที่หลากหลายและเปลี่ยนชนิดของอาหารไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ เต่าซูคาต้าไม่เบื่อ และได้สารอาหารอย่างครบถ้วน โดยปัจจุบันก็ได้มีการผลิดอาหารสำเร็จรูปสำหรับเต่าบกโดยเฉพาะแล้ว สามารถเลือกซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งข้อดีของอาหารสำเร็จรูปนั้น คือปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง ทั้งยังมีสามารถอาหารที่ครบถ้วน
เราสามารถเลี้ยง เต่าชูคาต้า ในห้องได้หรือไม่
โดยส่วนใหญ่ในต่างประเทศก็นิยมเลี้ยงกันในห้อง หรืออาจจะเห็นกันในคอนโดก็มี แต่จะต้องมีอุปกรณ์เสริมเป็น หลอดจำลองแสงอาทิตย์ หรือพวกหลอดให้ความร้อน หลอด UV ต่าง ๆ ให้มีความคล้ายคลึงกับที่อยู่อาศัยของเต่าซูคาต้า อย่างทะเลทราย ซึ่งหากเลี้ยงภายในห้องข้อควรรู้ คือลักษณะนิสัยของเต่าซูคาต้า โดยเต่าซูคาต้ามักจะออกมากอาบเเดดในช่วงเช้าเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย เพราะอากาศในทะเลทรายจะหนาวจัดเมื่อตกกลางคืน แต่ภูมิอากาศในประเทศไทยนั้น เหมาะกับการเลี้ยงเต่าซูคาต้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอากาศร้อนตลอดทั้งปี
หากให้เหมาะจริงๆควรเป็นพื้นที่ขนาดกลาง (2×4 เมตร) ลักษณะเป็นบ่อ เหมาะเลี้ยงประมาณ 3 ตัว (ตัวผู้ 1 ตัวเมีย 2) ควรมีเเสงแดดส่องถึง เเละเมื่อฝนตกน้ำต้องไม่ท่วมขังระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ถ้าอยากให้เต่าซูคาต้าโตเร็วต้องเลี้ยงเลียนแบบธรรมชาติ จัดอุณหภูมิ 30-35 องศาเซลเซียส ควรมีร่มเงาให้หลบเเดดด้วย อากาศร้อนแห้ง จะทำให้เต่าซูคาต้าโตอย่างรวดเร็ว
การขับถ่ายของเต่าซูคาต้า
เป็นเต่าที่กินพืชเป็นอาหารหลัง อึจึงไม่ค่อยจะมีกลิ่นมากนัก โดยส่วนมากเต่าเด็กจะมีอึไม่มากนัก และถ้าหากมีการให้อาการที่มีไฟเบอร์สูง สุขภาพของเต่าซูคาต้าก็จะดี ขับถ่ายเป็นก้อน และไม่ค่อยจะมีกลิ่นมากนัก และถ้าหากหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ ก็จะไม่มีกลิ่นมารบกวนเลย
เต่าชูคาต้า ต้องฉีดวัคซีนไหม
เต่าชูคาต้า เป็นสัตว์ที่ค่อนข้างแข็งแรง มีความอึด ทน และข้อดีของการเลี้ยงเจ้าเต่าซูคาต้านั้น คือไม่ต้องพาไปฉีดวัคซีน แถมยังไม่มีโรคอะไรอีกด้วย ถ้าหากได้รับการดูแลได้อย่างถูกต้อง โดยส่วนใหญ่ถ้าหากน้องป่วยจะมีอยู่ไม่กี่อาการเท่านั้น ที่พบมากมีเพียงสองอาการคือ หวัด และ นิ่ว ซึ่งหวัดอาจจะเกิดจากช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกหนักและความชื้นสูง หรือหน้าหนาวจัด ๆ ซึ่งอาการคือมีน้ำมูก วิธีแก้ก็เพียงนำเต่าซูคาต้าไปตากแดด หรือกกไฟให้ความอบอุ่นเท่านั้น ส่วนอาการของนิ่วจะเกิดจากการให้อาหารไม่เหมาะสม ขาดน้ำ หรือเกิดจาการขาดรังสี UVB ทั้งนี้ก็มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดนิ่วได้ แต่ถ้าได้รับการดูอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยลดการป่วยได้เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามผู้เลี้ยงควรศึกษาข้อมูลก่อนที่จะเลี้ยง เพราะเต่าซูคาต้านั้นมีอายุที่ยืนมากกว่ามนุษย์ ควรศึกษาก่อนจะเลี้ยงให้ดี (สามารถศึกษาได้จากคลิปด้านล่าง)
การผสมพันธุ์และฟักไข่ของเต่าซูคาต้า
เต่าซูคาต้าจะมี ช่วงการผสมพันธุ์ ประมาณต้นฤดูร้อนจนไปถึงช่วงปลายฤดูฝน จะพบได้บ่อยประมาณเดือน กันยายนถึงพฤศจิกายน เต่าซูคาต้ามักใช้เวลาผสมพันธุ์ ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยตัวเมียจะวางไข่ประมาณ 15 – 30 ฟอง ไข่จะฟักในรังใต้ดินประมาณ 8 เดือน และใช้เวลาในการเจริญเติบโตเป็นเต่าตัวเต็มวัยประมาณ 7 ปี
เครดิตภาพจาก องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย