ใช่ว่าทุกที่ที่เราอยู่จะสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ และใช่ว่าสถานที่ที่เลี้ยงสัตว์ได้เพื่อนบ้านจะยอมรับสัตว์เลี้ยงของเราด้วย แม้สัตว์เลี้ยงแสนซนของเราที่ไม่ว่าจะมองจากตรงไหน มุมไหนก็ดูน่ารักไปหมด แต่ก็ใช่ว่าจะน่ารักกับเพื่อนบ้านเราสักหน่อย เพราะสิ่งที่ต้องตามติดมาเมื่อเราด้วยมีสัตว์เลี้ยงนั้น ทั้งเสียงและกลิ่น อาจไปรบกวนเพื่อนบ้านโดยไม่ตั้งใจก็ได้
ยิ่งแล้วกับผู้ที่พักอยู่ในคอนโดที่มีข้อจำกัดมากมาย ทำให้การมีสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนนั้นเป็นเรื่องยากเอามาก ๆ แต่ทุกปัญหาย่อมมีทางออก มาดูกันว่าจะมีสัตว์เลี้ยงชนิดไหนบ้างที่สามารถมาเป็นเพื่อนคู่ใจคุณได้บ้าง
1. เม่นแคระ (Hedgehog)
คนมักเข้าใจผิดว่าเม่นแคระเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องสลัดหนามออกมาแน่ แต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย ด้วยนิสัยที่ขี้อายและขี้กลัว ทำให้น้องชอบขดตัวเป็นก้อนกลม ๆ ทุกครั้งที่ตกใจ แม้ในช่วงแรกอาจต้องใช้เวลาเล่นกับน้องมากหน่อย แต่เมื่อสนิทกันแล้วน้องจะยอมให้เราจับมากขึ้น แถมน่ารักมากขึ้นอีก 10 เท่าเลย ที่สำคัญใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย ไม่ส่งเสียงดังรบกวนด้วย
2. งูบอลไพธอน (Ball Python)
สัตว์เลี้ยงแปลกที่ขึ้นแท่นความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยนิสัยที่ไม่ก้าวร้าว และสีสันลวดลายที่สวยงามสะดุดตา ทั้งยังเป็นงูที่เลี้ยงง่าย ใช้เวลาเลี้ยงดูน้อย แถมยังนำมาสัมผัสหรือกอดเล่นได้ ทำให้งู Ball Python กลายเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง
3. เต่าซูลคาต้า (Sulcata Tortoise)
แม้ว่าปกติแล้วเต่าซูลคาต้าจะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย แต่ด้วยอากาศร้อนของไทยก็ถือว่าเป็นอากาศที่ค่อนข้างเหมาะกับการนำเต่าซูลคาต้ามาเป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ไม่น้อย แต่หากเลี้ยงในห้องหรือในคอนโด อาจต้องใช้อุปกรณ์มากขึ้นมาอีกนิด เช่น โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ โคมไฟความร้อน หรือหลอด UV ซึ่งจำเป็นสำหรับเต่า สำหรับการแผ่รังสีและความร้อน นอกจากนี้แล้วเต่าซูลคาต้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่ายมาก ๆ และไม่เรื่องมากในการกินด้วย
4. เต่าญี่ปุ่น หรือเต่าแก้มแดง (Red-eared Slider)
เต่าญี่ปุ่นเป็นสัตว์เลี้ยงอีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงทั่วโลก ซึ่งความน่ารักนี้จะระวังสักหน่อยเพราะน้องยิ่งโตก็ยิ่งดุ และการเลี้ยงสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอาจต้องคำนึงถึงอ่างที่ใช้เลี้ยงเต่าสักหน่อย ต้องมีพื้นที่สำหรับน้ำและบกในสัดส่วนที่ไม่ต่างกันมากนัก และต้องเปลี่ยนน้ำทุก ๆ สัปดาห์ หากไม่ค่อยมีเวลา การติดตั้งระบบกรองน้ำก็ไม่ใช่ใช่เรื่องที่แย่นะ เพราะช่วยป้องการแบคทีเรียและลดความถี่ในการเปลี่ยนน้ำได้ด้วย
5. กิ้งก่าเปลี่ยนสี หรือ คาเมเลี่ยน (Chameleon)
คิดจะเลี้ยงคาเมเลี่ยนอาจต้องคำนึงถึงระบบนิเวศเป็นอันดับแรก เห็นสีสันที่สวยสดและดวงตาปูดโปนน่าดึงดูดแบบนี้ใช่ว่าจะเลี้ยงยังไงก็ได้นะ เพราะเจ้าคาเมเลี่ยนต้องการความชื้นและแสงเป็นอย่างมาก รวมไปถึงต้นไม้ กิ่งไม้ต่าง ๆ ภายในกรง แม้กิ้งก่าแต่ละตัวอาจต้องการความชื้นไม่เท่ากัน แต่ควรใช้กรงที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และอาจต้องมีการติดตั้งระบบน้ำภายในกรงให้มีสเปรย์น้ำพ่นอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน
6. หนูแฮมสเตอร์ (Hamster)
เอ้า ออกมาวิ่ง วิ่งนะวิ่งนะแฮมทาโร่~ เรียกว่าเป็นเพลงประจำตัวของน้องไปแล้ว สัตว์เลี้ยงตัวเล็กน่ารักที่เลี้ยงง่ายเอามาก ๆ และยังใช้พื้นที่น้อยในการเลี้ยงด้วย
7. หนูชินชิลล่า (Chinchilla)
หนูชินชิลล่า เป็นสัตว์เลี้ยงที่หน้าตาเหมือนหนู หูเหมือนกระต่าย แต่ดันมีหางเหมือนกระรอกซะนี่ แต่ความน่ารักของหนูชินชิลล่าไม่ได้มีแค่รูปร่างหน้าตาเท่านั้น นิสัยก็ยังเป็นมิตรมากด้วย หนูชินชิลล่าเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างซุกซนและเชื่องมาก ๆ แม้ว่าจะหงุดหงิดแค่ไหนน้องจะปัดมือเราออกแทน ไม่กัดเราแน่นอน
8. ชูการ์ ไกลเดอร์ (Sugar Glider)
ชูการ์ ไกลเดอร์เป็นสัตว์ที่ต้องการการดูและและเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ยิ่งคุ้นเคยและสนิทกับเราเท่าไร ก็ยิ่งติดเรามากด้วยเช่นกัน และด้วยชูการ์ ไกลเดอร์ดป็นสัตว์สังคม หากมีเวลาเล่นด้วยน้อย อาจเลี้ยงหลายตัวรวมกัน เพื่อไม่ให้น้องเกิดความเครียดได้นั่นเอง
9. ปลาสวยงาม
การเลี้ยงอะไรง่าย ๆ ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกันนะ ซึ่งการเลือกปลาสวยงามมาเป็นสัตว์เลี้ยงในห้องแล้ว ยังช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้องพัก และยังช่วยให้ผ่อนคลายแบบง่าย ๆ ได้ด้วย
10. กุ้งเครย์ฟิช (Crayfish)
เลี้ยงปลาอาจง่ายไป เลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชไปซะเลย ถึงจะเป็นอาหารแต่ก็นำมาเลี้ยงเพื่อความสวยงามได้เหมือนกัน ซึ่งวิธีการเลี้ยงก็ง่ายมาก แค่มีตู้น้ำก็สามารถเลี้ยงได้แล้ว แต่เพื่อความสวยงามก็ตกแต่งตู้น้ำสักหน่อยก็ดีนะ
ไม่ว่าจะเลือกสัตว์ชนิดไหนมาเป็ฯสัตว์เลี้ยง สิ่งที่เราต้องไม่ลืมคือต้องศึกษาธรรมชาติของสัตว์เลี้ยงชนิดนั้น ๆ และให้การดูแลเอาใจใส่ด้วย
Picture: www.pinterest.com