แรคคูน กับความลับที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

แรคคูน สัตว์เลี้ยงน่ารักในวันนี้เราจะมาพูดถึงสัตว์เลี้ยงสุดฮิตหน้าตาน่ารักแต่บอกเลยว่าอาจจะมาพร้อมกับความวุ่นวายสุดยิ่งใหญ่ พูดอย่างนี้แล้ว ทุกคนคงสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่าสัตว์ตัวนั้นคืออะไรและสัตว์ตอนนั้นที่เรานำมาก็คือและเจ้าแรคคูนนั่นเอง แม้ว่าเดิมทีแรคคูนจะอาศัยอยู่ตามป่าแต่ด้วยความน่ารักที่ทำให้ผู้คนมากมายใจละลายก็ทำให้เจ้าแรคคูนนี้เป็นที่นิยมขึ้น ตามมาดูกันเลยว่าความซนแสบของเจ้าแรคคูนจะขนาดไหนกัน ทำความรู้จักกับเเรคคูน หน้าตาน่ารักกับนิสัยสุดแสบ ก่อนอื่นเรามาทราบถึงประวัติความเป็นมาของเจ้าแรคคูนตัวนี้กันเลย แน่นอนว่าแรคคูน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง ใครที่กำลังสงสัยว่าแรคคูนกินอะไรบอกเลยว่าแรคคูนเป็นสัตว์ที่กินทั้งสัตว์และพืช อย่างเช่น ปลา กุ้ง เต่า ปู ผลไม้ต่างๆ ข้าวโพด รวมถึงเศษอาหารและเศษขยะด้วยเช่นกัน เดิมทีจะอาศัยอยู่ตามป่าและชุมชนทั่วทั้งในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกากลาง แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดีทำให้ปัจจุบันกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่กำลังเป็นที่นิยมนั่นเอง ว่ากันว่าแรคคูนอายุขัยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปีและแรคคูนที่ถูกเลี้ยงตามบ้านจะมีอายุขัยมากกว่าตามธรรมชาติด้วย ลักษณะทั่วไปของแรคคูนจะมีความยาวลำตัวประมาณ 2 ฟุต มีหางยาวเป็นปล้องซึ่งจะมีแถบสีดำคาดเทาที่มียาวประมาณ 10 นิ้ว ขนของแรคคูนตามลำตัวสีน้ำตาลปนเทาแต่ใบหน้าจะเป็นสีขาวและมีแถบสีดำคาดจากตาไปเป็นแถบออกไปคล้ายกับโจรแต่ก็น่ารักพอที่จะทำให้หลายๆคนหลงรักได้ เเรคคูนนิสัยค่อนข้างซุกซนและแสบมากเลยทีเดียว ด้วยความที่เป็นสัตว์ที่มักใช้มือในการหนิบจับสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ทำให้คุณต้องระวังไว้ให้ดีว่าสิ่งของที่เจ้าสัตว์ตัวนี้หยิบได้จะต้องเสียหายอน่างแน่นอน แถมเจ้าสัตว์ตัวนี้ยังมีนิสัยที่ขอบแกล้งคนและสัตว์ตัวอื่นนิสัยขี้เล่นของมันนี่เองที่จะนำมาซึ่งความวุ่นวายจนคุณจะต้องร้องกรี้ด ไม่ว่าจะเป็น การขโมยอาหาร คุ้ยขยะ กัดฉีดสิ่งของ แต่พฤติกรรมเหล่านี้ก็เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งในนิสัยขี้เล่นของมันหากมองลึกๆไปยังจิตใจแล้วแรคคูนก็ไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้ายหรืออันตรายแต่อย่างใดอาจจะมีความน่ารักน่าเอ็นดูที่จะทำให้คนหลงรักเสียมากกว่า แรคคูน เจาะลึกเรื่องราวถึงการเลี้ยง สำหรับใครที่กำลังตกหลุมรักความน่ารักของเจ้าแรคคูนแต่กำลังคิดหนักว่าเลี้ยงแรคคูนผิดกฎหมายไหมหากอยากเลี้ยงสัตว์ตัวนี้จริงๆ แน่นอนว่าสามารถเลี้ยงได้แต่ต้องเป็นแรคคูนที่มีได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายไม่ใช่แรคคูนที่ถูกจับตัวมาจากป่าเพราะนั่นอาจจะทำให้น้องปรับตัวได้ยากกับสังคมแบะพฤติกรรมความเป็นอยู่ แต่ก็ถือว่าแรคคูนเป็นสัตว์ที่เลี้ยงได้อย่างถูกต้องแน่นอน รวมบทความเกี่ยวกับสัตว์พิเศษ อ้างอิงรูปภาพ: https://www.canva.com/ เครดิต: คาสิโนออนไลน์ / เซ็กซี่บาคาร่า / สล็อตออนไลน์
สลอธ สัตว์ที่ขี้เกียจและสกปรกที่สุดในโลก

สลอธ ถ้าหากจะพูดถึงเจ้าสัตว์ตัวนี้ นั้นเชื่อว่าหลายๆคนก็น่าจะนึกถึงสิ่งมีชีวิตที่แสนเชื่องช้าใช่มั้ยละคะ สัตว์ป่าหน้าตาแป้นแล้นแขนขายาวที่เคลื่อนไหวช้าที่สุดในโลก ท่าทางของมันก็น่าเอ็นดูและทำให้เรารู้สึกเหมือนทุกอย่างสโลว์ตามไปด้วย น่ารักขนาดนี้หลายๆคนก็น่าจะอยากรู้จักเจ้าสลอธกันให้มากขึ้นแล้วใบ่มั้ยละคะ ดังนั้นวันนี้เราจะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักเจ้าสลอธ สัตว์ป่าแสนเชื่องช้าที่ใครจะรู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่ขี้เกียจและสกปรกขนาดไหน ถ้าใครไม่เชื่อก็ตามไปดูพร้อมๆกับเรากันได้เลยยยย ทำความรู้จักเจ้า สลอธ สัตว์น่าตาน่ารักที่เคลื่อนไหวช้าที่สุดในโลก สลอธ คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับนางอายและตัวนิ่ม เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดแถบทวีปอเมริกาเหนือ แต่ในปัจจุบันนั้นกลับพบได้มากในโซนอเมริกาใต้และอเมริกากลาง โดยจะอาศัยอยู่ในป่าฝนร้อนชื้น ซึ่งสลอธนั้นจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากมันเป็นสัตว์ที่เชื่องช้าจึงทำให้มักจะหนีไม่ทันเมื่อถูกสัตว์กินเนื้อเข้าโจมตี สลอธสามารถพบได้ทั้งหมด 2 สายพันธุ์ คือ สลอธ 3 นิ้ว และ สลอธ 2 นิ้ว ซึ่งจะเป็นการแยกสายพันธุ์จากจำนวนของนิ้ว โดยสลอธ ลักษณะเด่นนั้นคือมันจะเป็นสัตว์ที่เชื่องช้ามากๆ การเคลื่อนไหวของมันจะอยู่ที่อัตราเพียง 1 ชั่วโมง เคลื่อนไหวได้ 4.82 เมตร ซึ่งจากสถิตินี้มันจึงทำให้สลอธกลายเป็นสัตว์ที่เคลื่อนไหวช้าที่สุดในโลกนั่นเอง หลายคนคงสงสายว่าช้าขนาดนี้ สลอธ ผสมพันธุ์อย่างไร คำตอบ คือ สลอธจะผสมพันธุ์บนต้นไม้กับคู่ของมัน โดยการโหนกิ่งต้นไม้และทำการผสมพันธุ์กันอยู่บนนั้น เมื่อตั้งครรภ์มันก็จะคลอดลูกที่บนต้นไม้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้การเลี้ยงลูก การใช้ชีวิตทุกสิ่งทุกอย่างส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่บนต้นไม้ทั้งหมด คำถามต่อมาสลอธ นอนกี่ชั่วโมง คำตอบคือใน 1 […]
อาร์มาดิลโล รู้จักกับสัตว์แปลกที่หาดูได้ยาก

อาร์มาดิลโล (Armadillo) หรือ ตัวนิ่ม เป็นชั้นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในอันดับ Cingulata ในอันดับใหญ่ ซีนาร์ทรา เป็นสัตว์แปลกที่หาดูได้ยากมากๆไม่สามารถหาดูได้ทั่วไปจึงทำให้ใครหลายๆคนอาจจะไม่เคยได้เห็นและไม่เคยรู้จักกับเจ้าอาร์มาดิลโลนี้กันค่ะ Armadillo เป็นสัตว์แสนจะน่ารักที่อาศัยอยู่บนโลกนี้มาอย่างยาวนานตั่งแต่สมัยพาลีโอซีน หรือ ประมาณ 65 ล้านปีที่แล้วแต่ปัจจุบัน armadillo ตัวนิ่มจัดเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่ง บรรพบุรุษของอาร์มาดิลโล มีชื่อว่า คลิปโตดอน ได้สูญพันธุ์ไปแล้วประมาณ 10,000 ปีที่แล้วซึ่งจะมีขนาดตัวที่ใหญ่และมีเกราะหุ้มตัวเป็นรูปหกเหลี่ยมแตกต่างจาก armadillo ตัวนิ่มที่เราเห็นในปัจจุบันค่ะ อาร์มาดิลโล(Armadillo) สัตว์แปลกที่หาดูได้ยากนี้คือตัวอะไรเราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกันเลยดีกว่าค่ะ ทำความรู้จักให้มากขึ้นกับ อาร์มาดิลโล ในอดีตอาร์มาดิลโล และลิ่นมีลักษณะคล้ายกันจึงถูกจัดให้เป็นสัตว์อันดับเดียวกัน คือ Edentata ซึ่งแปลว่า “ไม่มีฟัน” แต่ Armadillo นั้นเป็นสัตว์ที่มีฟันขนาดเล็กแตกต่างจากลิ่นที่ไม่มีฟัน ต่อมาจึงได้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่แตกต่างกันซึ่ง armadillo ตัวนิ่มมีลักษณะคล้ายกับสลอธหรือตัวกินมดมากกว่าค่ะ อาร์มาดิลโลเป็นสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ มีหน้าและจมูกที่ยาว มีปากขนาดเล็กและมีลิ้นที่ยาวไว้คอยจับเหยื่อกิน คือ แมลงจำพวก มด ปลวก และหนอนตามพื้น มีกรงเล็บที่แหลมคมไว้ขุดสร้างที่อยู่อาศัยและขุดหาอาหาร armadillo ตัวนิ่มมีขาที่สั้นแต่พวกมันสามารถวิ่งได้เร็ว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ […]
แอกโซลอเติล รู้จักกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำกับตำนานสุดพิลึก

แอกโซลอเติล หรือที่มีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า ปลาตีนแม็กซิโก ที่มีชื่อเรียกว่าปลาตีนแม็กซิโกนั่นก็เพราะว่าเจ้าตัวแอกโซลอเติลนั้นมีหน้าตาที่คล้ายกับปลาตีนของบ้านเรานั่นเอง แอกโซลอเติลมีต้นกำเนิดมาจากทะเลสาปในประเทศแม็กซิโก ลักษณะของเจ้าตัวนี้เหมือนปลาแต่ก็มีขาเหมือนเดินได้ ถือเป็นสัตว์ในตระกูลจำพวกซาลามาเดอร์ ซึ่งในตอนนี้ประเทศจีนกำลังนิยมขายแอกโซลอเติลในการนำไปเลี้ยงอีกด้วย แต่จริงๆแล้วเราอาจจะคุ้นชินแค่รูปร่างภายนอกเท่านั้น เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาทำความรู้จักกับเจ้าตัวแอกโซลอเติลกันมากขึ้นดีกว่าค่ะ ตำนานสุดพิลึกของแอกโซลอเติลและข้อมูลเบื้องต้น Axolotl หรือแอกโซลอเติล ที่มีลักษณะเหมือนหมาน้ำ ซึ่งเจ้าตัวแอกโซลอเติลมีตำนานสุดพิลึกที่เกี่ยวกับเหล่าเทพมากมายที่จะต้องมารวมตัวกันรอบกองไฟเพื่อหาผู้สละชีพที่ยอมมาสร้างพระจันทร์และพระอาทิตย์ให้แก่ชาวโลก แต่เทพโซลอเติลเป็นเทพองค์เดียวที่ไม่ยอมกระโดดเข้าไปในกองไฟเพื่อสละชีพ เทพโซลอเติลแปลงกายเป็นสัตว์ต่างๆรวมถึงตัวแอกโซลอเติลเพื่อทำการหลบหนี จากนั้นเทพเควอตซัลจึงทำการสาปให้เทพโซลอเติลกลายเป็นปีสาจน้ำที่ต้องอยู่ในความมืดไปตลอดกาลนั่นเอง เรื่องราวต่างๆจึงกลายเป็นที่มาของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่าง แอกโซลอเติล ซึ่ง axolotl วิธีเลี้ยงนั้นคือเหมือนการเลี้ยงปลาทั่วไป หมั่นทำความสะอาดน้ำบ่อยๆ และแอกโซลอเติลเป็นสัตว์ที่สามารถซ่อมแซมร่างกายตัวเองได้เมื่อมีปัญหา รวมถึงปอดและหัวใจด้วย เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่สุดยอดจริงๆค่ะ แอกโซลอเติล สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่เสี่ยงสูญพันธุ์ เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับข้อมูลและตำนานสุดพิลึกของเจ้าแอกโซลอเติล เชื่อว่าหลายคนคงแปลกใจสุดๆ แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญพอๆกันนั่นคือเจ้าแอกโซลอเติลนั่นมีความเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ค่ะ ถึงแม้ว่าเจ้าตัวนี้จะสามารถรักษาร่างกายตัวเองได้แต่ก็ควรดูแลรักษาและช่วยอนุรักษ์สัตว์มหัศจรรย์ตัวนี้ไว้เป็นอย่างดีนะคะ เพื่อโลกที่น่าอยู่และความอุดมสมบูรณ์ของโลกเราค่ะ รวมบทความเกี่ยวกับสัตว์พิเศษ อ้างอิงรูปภาพ https://postjung.com/tag/แอกโซลอเติล%20%28Axolotl%29 เครดิต เซ็กซี่บาคาร่า, เว็บพนันออนไลน์, สล็อตออนไลน์
คาราคัล แมวป่า สัตว์เลี้ยงสุดเท่หน้าหล่อ

คาราคัล หนึ่งในสัตว์ที่เรานำมาในวันนี้ แน่นอนว่าเป็นสัตว์ที่ทุกคนอาจจะเคยเห็นคุ้นชินหน้าตากันมาบ้างแล้วและสัตว์ชนิดนั้นก็คือ แมวป่าคาราคัล เดิมทีแล้ว แมวป่าตัวนี้มีสัญชาตญาณที่แตกต่างจากแมวบ้านทั่วไปนั่นก็คือสัญชาตญาณของสัตว์ป่าในวันนี้เราจะมารวบรวมความรู้เกี่ยวกับแมวป่าคาราคัลให้ทุกคนได้ทราบว่า เจ้าแมวป่าคาราคัลนั้นนอกจากความน่ารักแล้วหากจะเลี้ยงต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง เรื่องราวของ คาราคัล แมวป่าตัวยักษ์ที่กลายมาเป็นสัตว์ยอดฮิต ก่อนที่เราจะมารู้ถึงวิธีเตรียมตัวในการเลี้ยงแมวป่าคาราคัล เรามาดูกันก่อนว่าแมวตัวนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง คาราคัล(Caracal) เป็นแมวชนิดหนึ่งที่เดิมที่อาศัยอยู่ในป่าตามทุ่งหญ้ากว้างใหญ่แต่ด้วยลักษณะและขนาดตัวของมันที่ไม่ได้ใหญ่มากนักจัดอยู่ในขนาดกลางจึงทำให้สายพันธุ์ของแมวคาราคัลถูกนำมาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน ที่มาของชื่อคาเข้ามาจากคำว่า Karakulak ในภาษาตุรกีที่แปลได้ว่า หูสีดำ เนื่องจากลักษณะหูของมันที่มีสีดำ ใบหูตั้งตรง มีขนชี้และลำตัวที่มีขนปกคลุมเป็นสีน้ำตาลอ่อนและเข้มจนไปถึงสีแดงอิฐ ความน่าเกรงขามบวกกับความน่ารักของแมวตัวนี้ทำให้มีผู้ที่ชื่นชอบในลักษณะหน้าตาที่ดุดันและน่าเกรงขามของแมวป่าถูกใจเจ้าแมวคาราคัลตัวนี้มากมาย นอกเหนือจากนั้นแล้วคาราคัลยังถูกเรียกขานในอีกหลายชื่ออย่างเช่น ลิงซ์เปอร์เซีย ลิงซ์อียิปต์ ลิงซ์แอฟริกา และ ลิงซ์ทะเลทราย วิธีการเตรียมตัวสำหรับคนที่อยากเลี้ยงแมวสายพันธุ์นี้แน่นอนว่าต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของพื้นที่และอาหารเนื่องจากแมวตัวนี้ถือเป็นแมวป่าชนิดหนึ่งเพราะฉะนั้นแล้วในบางครั้งมันอาจจะมีนิสัยที่ดุดันซึ่ง ในส่วนนี้จะอยู่ที่การเลี้ยงดูด้วยเช่นกันนะตอนนี้เธอเป็นสัตว์กินเนื้อได้ปกติแล้วหากมันอยู่ในป่าล่าสัตว์ประเภท หนูทรายหรือกระรอกดิน เพราะฉะนั้นแล้วผู้เลี้ยงอาจจะต้องเตรียมอาหารประเภทบาร์ฟหรือเนื้อสดบดให้มันกินเป็นอาหารหากจะเลี้ยงดูเจ้าแมวตัวนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมนั่นก็คือเงินในการซื้อเจ้าแมวป่าตัวนี้ เพราะค่าตัวนั้นสูงถึงหลักแสนเลยทีเดียว สิ่งสำคัญในการเลี้ยงเเมวป่าคาราคัล นอกจากเรื่องของเงินและการดูแลที่ถูกต้องอ่อนโยนไม่ทำให้น้องคลายสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่ดุร้ายออกมาแล้ว สิ่งสำคัญก่อนจะเลี้ยงเจ้าแมวป่าคาราคัลนั่นก็คือ การขอใบอนุญาตในการเลี้ยง เพราะแน่นอนว่าแมวตัวนี้ก็ถือเป็นหนึ่งในแมวป่าชนิดหนึ่งเช่นกัน รวมบทความเกี่ยวกับสัตว์พิเศษ อ้างอิงรูปภาพ https://www.canva.com/design/DAE_XlzYx8o/a0_MGiaeSoZ6GoWjZI8Rbg/view?utm_content=DAE_XlzYx8o&utm_campaign=share_your_design&utm_medium=link&utm_source=shareyourdesignpanel
สายพันธุ์แมวป่า ยอดฮิตที่คนมักนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง

สายพันธุ์แมวป่า สำหรับใครที่เป็นทาสน้องแมวเหมียว และมีความชอบเป็นพิเศษกับสัตว์หน้าแมวอย่างเสือหรือสิงโต จะต้องถูกใจบทความที่เราจะมาแนะนำสายพันธุ์แมวป่าที่เลี้ยงได้ในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะสายพันธุ์แมวป่านั้นจะมีหน้าตาที่น่ารักดุดันเหมือนเจ้าเสือและสิงโตแต่ก็มีความเชื่องขี้อ้อนเหมือนแมวน้อยตามบ้านจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมในปัจจุบันสายพันธุ์แมวป่าจึงกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สายพันธุ์แมวป่า ที่นิยมนำมาเลี้ยงมากที่สุด 1.Caracal เป็นสายพันธุ์แมวป่าที่มาจากแอฟริกาที่มีนิสัยน่ารัก สามารถฝึกฝนให้เป็นแมวบ้านน่ารักได้แต่สิ่งที่มากับน้องแน่นอนว่า เนื่องจากเป็นแมวป่าทำให้แมวตัวนี้มีพละกำลังที่มากมายและรับประทานเนื้อเป็นอาหาร รูปร่างของแมวคาราคัลจะมีขนาดตัวยาวประมาณ 50-80 เซนติเมตร มีความสูง 50 เซนติเมตรและน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 20 กิโลกรัม มีสีขนตั้งแต่สีร้ำตาลอ่อนเข้มไปจนถึงสีแดงอิฐ ใบหูตั้งยาวสีดำ ขนสั้นแต่แน่นด้วยน่าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูจึงไม่แปลกใจเลยที่คาราคัลกลายเป็นแมวป่ายอดฮิตที่คนนิยมเลี้ยงมากที่สุด 2.Bengal แมวป่าที่เลี้ยงได้ตัวต่อไปก็ถือเป็นสายพันธุ์แมวป่ายอดฮิตไม่แพ้คาราคัลเลย ต้นกำเนิดของแมวตัวนี้เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างแมวป่าที่มีชื่อว่า Felis Bengalensis หรือที่รู้จักในชื่อแมวดาวเอเชียและแมวพื้นเมืองพันธุ์หนึ่งของสหรัฐอเมริกา ทำให้เบงกอลที่ลักษณะรูปร่างคล้ายแมวป่าแต่ก็มีลักษณะนิสัยที่เหมือนแมวบ้าน ขนาดของแมวตัวนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าแมวบ้านทั่วไปคือลำตัวยาว 20-25 เซนติเมตรและน้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 4-7 กิโลกรัมสีลำตัวเป็นลายคล้ายเสือดาวที่เรียกว่าลาย Spotted และลายแบบ Rosettes ที่เป็นสีพื้นลำตัวตัดกับลาย 3.Savannah cat แมวซาวันน่าห์ เป็นอีกหนึ่งแมวลูกผสมระหว่างสายพันธุ์แมวป่าที่ชื่อว่า Serval และแมวบ้านดูจากชื่อก็สามารถรู้แน่นอนแล้วว่าเดิมทีสายพันธุ์แมวป่าตัวนี้จะต้องอาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนาอย่างแน่นอน ลักษณะเด่นของแมวตัวนี้คือรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับแมวป่าเซอร์วัลที่ย่อส่วนลงมา น้ำหนักสามารหนักได้สูงถึง 14 กิโลกรัมด้วยอุปนิสัยที่เชื่อง น่ารัก ขี้อ้อนและเป็นนักสำรวจจึงทำให้แมวสายพันธุ์นี้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้านสุดน่ารักและทำให้ทาสแมวหลายๆคนหลงใหล ข้อควรรู้เกี่ยวการเลี้ยงสัตว์สายพันธุ์แมวป่า แน่นอนว่าการเลี้ยงแมวสายพันธุ์แมวป่านั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครทุกคนสามารถเลี้ยงได้ เพราะนอกจากความชอบส่วนตัวแล้วคุณจะต้องมีกำลังในการดูแล ละพื้นที่ให้มันวิ่งเล่นได้อย่างเหมาะสม เพราะสายพันธุ์แมวป่าส่วนมากแล้วไม่ใช่เจ้าเหมียวทั่วไปที่มีนิสัยหลักคือรักการนอน […]
วิธีเลี้ยงปลาทอง มือใหม่ควรรู้เลี้ยงอย่างไร ให้รอด!!

เมื่อพูดถึงสัตว์เลี้ยงยอดฮิตที่มีอยู่ในเกือบทุกบ้าน จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยหากไม่ใช่สัตว์เลี้ยงในตู้น่ารักอย่าง เจ้าปลาทอง วันนี้เราจึงมาเผยเคล็ดลับวิธีเลี้ยงปลาทองอย่างถูกวิธีมาให้ทุกคนที่อยากจะเลี้ยงแต่ยังไม่รู้วิธีเลี้ยงปลาทองยังไงดี ได้เรียนรู้และเข้าใจไปพร้อมกัน ซึ่งจริงๆแล้วในการเลี้ยงปลาทองนั้นไม่ยากเลยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่หรือมือสมัครเล่นที่อยากจะลองเลี้ยงสัตว์เลี้ยงซักตัวไว้เป็นเพื่อน วิธีการเลี้ยงปลาทอง รวบรวมความรู้เกี่ยวกับปลาทองตัวน้อยสุดน่ารัก ปลาทอง ถือเป็นปลาสวยงามที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาประดับภายในบ้าน เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกับปลาตะเพียน โดยจุดเริ่มต้นหรือถิ่นกำเนิดของปลาทองนั้นมาจากในประเทศจีนและญี่ปุ่น ในปัจจุบันที่ปลาทองได้กลายเป็นปลายอดฮิตนั่นก็เพราะว่า เป็นปลาที่ดูแลง่ายแถมยังมีความมงคลตามความเชื่อหลักฮวงจุ้ยว่ากันว่า ปลาทองจะช่วยทำให้มีเงินมีทองไหลมาเทมา สายพันธุ์ปลาทองถูกจัดแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์หลักๆนั้นก็คือ ปลาทองหัวสิงห์ และปลาทองออลันดา โดยทั้งสองสายพันธุ์จะมีความแตกต่างอยู่ตรงที่ลักษณะรูปร่าง ปลาทองหัวสิงห์ จะมีหัวที่เหมือนมีก้อนเนื้อเยื่อหุ้มอยู่ ที่มาของชื่อหัวสิงห์นั้นมาจาก รูปร่างหน้าตาที่มีลักษณะคล้ายกับสิงโตบ้านของชาวจีน ช่วงตัวของปลาทองสายพันธุ์นี้จะมีลำตัวกลม สั้น ไม่มีครีปหลัง ส่วนปลาทองออลันดาหนือที่เรารู้จักกันในชื่อของปลาทองหัววุ้น เป็นปลาทองที่ถูกผสมพันธุ์ระหว่างปลาทองหัวสิงห์และปลาทองริวกิ้น เป็นปลาทองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย ลักษณะเด่นของปลาทองพันธุ์นี้จะอยู่ที่ความสวยงามของครีปที่ยาวและใหญ่แตกต่างจากปลาทองหัวสิงห์ แม้ว่าจะลักษณะต่างกันแต่วิธีเลี้ยงปลาทองทั้งสองสายพันธุ์นี้ไม่ได้แตกต่างกันเลย สำหรับขั้นตอน วิธีเลี้ยงปลาทองต้องดูก่อนว่าปลาทองกินอะไรเป็นอาหารและมีอุปกรณ์อะไรบ้างโดยเราจะขอเริ่มจากอุปกรณ์ที่เลี้ยงจะมีเป็น ตู้กระจกใสหรืออ่างซีเมนต์ ออกซิเจน คุณภาพของน้ำ(ต้องเป็นน้ำที่ผ่านการกำจัดคลอรีน) ในบางครั้งอาจจะเตรียมพันธุ์ไม้น้ำหรือหินสีเพื่อใช้ในการตกแต่งและเป็นที่หลบซ่อนของน้องปลาทองได้ และสำหรับอาหารของปลาทองสามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปเพราะปลาทองมันก็กินอาหารเม็ดสำเร็จรูป ปริมาณการให้แนะนำว่าควรให้วันละ 1-2 ครั้งต่อวันก็เพียงพอแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีเลี้ยงปลาทองขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้ก่อนเลี้ยงนะคะ ไม่ยากอย่างที่คิดกับวิธีเลี้ยงปลาทองสุดน่ารัก เป็นไงบ้างคะกับวิธีเลี้ยงปลาทองที่เรานำมาฝากทุกคนในวันนี้ไม่ยากเลยใช่ไหม แต่อย่าลืมว่าการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดก็มีข้อที่ต้องพึงระวัง ปลาทองก็เช่นกัน เพราะในการเลี้ยงน้องปลาทองนั้นต้องอย่าลืมให้อาหารน้องเด็ดขาดและควรให้ในเวลาที่สม่ำเสมอ ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าปลาทองถือเป็นปลาชนิดหนึ่งไม่ใช่สัตว์เลี้ยงที่เราจะนำน้องขึ้นมาลูบได้ด้วยมือเปล่า เพราะอาจจะทำให้น้องบอบช้ำ เกิดบาดแผลและอาจติดเชื้อโรคได้หากเราไปสัมผัส รวมบทความเกี่ยวกับสัตว์พิเศษ อ้างอิงรูปภาพ https://www.canva.com/design/DAE-n7vImxI/dWbPWTtn8mKtcbk-lsdZDA/edit?utm_content=DAE-n7vImxI&utm_campaign=designshare&utm_medium=link2&utm_source=sharebutton
ปิ๊กมี่ มาร์โมเสท ลิงจิ๋วยอดฮิตที่ตัวเล็กที่สุดในโลก

ปิ๊กมี่ มาร์โมเสท หรือลิงแคระ สายพันธุ์ปิ๊กมี่ เป็นลิงที่มีขนาดที่เล็กที่สุดในโลก ซึ่งขนาดของลิงปิ๊กมี่ มาร์โมเสทนั้นมีขนาดเท่ากับนิ้วมือของคนเราเท่านั้นเอง ซึ่งน้ำหนักสุทธิของเจ้าลิงแคระนั้นอยู่ที่ 85-140 กรัมเท่านั้น รูปร่างลักษณะของเจ้าตัวปิ๊กมี่ มาร์โมเสทคือมีลักษณะเหมือนลิงทั่วไป แต่เหมือนเป็นการย่อขนาดให้ดูตัวจิ๋วลงเท่านั้นเอง ด้วยความที่เจ้าตัวลิงจิ๋วพันธุ์นี้มีความน่ารักน่าเอ็นดู จึงทำให้มีหลากหลายคนที่ต้องการจะนำมาเลี้ยง แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปิ๊กมี่ มาร์โมเสทมากนัก วันนี้ทางเราจึงอยากมาเขียนแนะนำข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงปิ๊กมี่ มาร์โมเสทกันค่ะ ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงปิ๊กมี่ มาร์โมเสท ลิงปิ๊กมี่ มาร์โมเสทเป็นลิงที่นิยมถูกเลี้ยงในทางฝั่งยุโรป ซึ่งลิงมาร์โมเสทเป็นลิงที่มีความฉลาด เลี้ยงไม่ยาก และน่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก ลิงแคระพันธุ์นี้มีลักษณะเหมือนลิงทั่วไปแต่มีความเด่นตรงขนสีขาวตรงใบหูทั้งสองข้าง ลิงมาโมเสท นิสัยที่โดดเด่นคือชอบอยู่บนต้นไม้ ชอบอยู่กันเป็นกลุ่ม เวลาเลี้ยงจึงต้องสร้างบรรยากาศที่เหมือนในป่าเพื่อทำให้น้องรู้สึกผ่อนคลายค่ะ มีหลายคนสงสัยว่า ลิงมาโมเสท ผิดกฎหมายไหม จริงๆแล้วไม่ผิดกฎหมายค่ะ แต่ในประเทศเรายังไม่ได้เลี้ยงปิ๊กมี่ มาร์โมเสทกันอย่างแพร่หลาย เพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ปิ๊กมี่ มาร์โมเสท กับข้อควรรู้ที่ควรนำเอาไปใช้ เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อควรรู้การเลี้ยงลิงแคระหรือลิงปิ๊กมี่ มาร์โมเสท ข้อมูลที่ทางเราแนะนำไปเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่สามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างแน่นอนค่ะ ที่สำคัญถ้าจะนำปิ๊กมี่ มาร์โมเสทมาเลี้ยงแล้วต้องหมั่นดูแลไม่ให้น้องเครียดโดยการคอยสร้างบรรยากาศให้เหมือนในป่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วใครที่อยากเลี้ยงปิ๊กมี่ มาร์โมเสทก็อย่าลืมนำข้อมูลที่เราให้ไปศึกษาเพิ่มเติมกันดูนะคะ รวมบทความเกี่ยวกับสัตว์พิเศษ อ้างอิงรูปภาพ https://www.blockdit.com/posts/5d04705a8ef7bb121dc23263 https://www.readvpn.com/Topic/Info/6f73c2ab-e8c1-4d16-bf51-08a6502cecd4 เครดิต เซ็กซี่บาคาร่า, ป็อกเด้ง […]
จามรี สัตว์ในตำนานที่แข็งแกร่งที่สุดในเทือกเขาหิมาลัย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับสัตว์วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสัตว์ที่หลายๆคนไม่ค่อยได้ยินชื่อกันบ่อยนัก เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ในตำนานแห่งเทือกเขาหิมาลัย สัตว์ชนิดนั้นก็คือ จามรี ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสัตว์ที่มีความพิเศษและมีประโยชน์มากมาย ลักษณะภายนอกคนทั่วไปอาจจะคิดว่า จามรี เป็นเหมือนวัวควายแต่ความเป็นจริงนั้นจามรีนั้นเป็นอย่างไรวันนี้มีคำตอบกันค่ะ สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับ จามรี จามรี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Bos grunniens เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่งที่เป็นสัตว์เท้ากีบอยู่ในวงศ์ตระกูลเดียวกับวัวและควาย ทำให้ลักษณะรูปร่างภายนอกของมันคล้ายคลึงกับวัวควาย จามรีตามธรรมชาติทั่วไปจะมีความสูงประมาณ 1.6-2.2 เมตร มีความยาวประมาณ 2.5-3.3 เมตรและมีน้ำหนักมากถึง 300-1,000 กิโลกรัมเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งแถมยังเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในเขตหนาวเย็นจัดในเขตเทือกหิมาลัย แถวทิเบต มองโกเลีย และรัสเซีย ลักษณะทั่วไปของจามรี คือ มีขนยาวตลอดทั้งตัวและมีความละเอียดอ่อนสีของขนมีทั้งสีน้ำตาลเข้ม ดำ และขาว แต่โดยส่วนมากเราจะเห็นจามรีเป็นสีน้ำตาลเข้ม ช่วงเขาใหญ่มากขายวัวกระทิง หางยาว จามรีถือได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์กับมนุษย์ตัวหนึ่ง เพราะมนุษย์เราใช้ประโยชน์จากจามรีมากมายไม่ว่าจะเป็น การรับประทานเนื้อและนมของจามรี ใช้เป็นยานพาหนะ ขนของมันสามารถนำมาทำเป็นเครื่องนุ่มห่ม ทั้งนี้จามรีมีประโยชน์อย่างมากไม่เว้นแม้แต่มูลของมันก็ยังสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยได้ด้ยเช่นกัน สายพันธุ์ของจามรีมีด้วยกัน 2 สายพันธุ์ซึ่งก็คือจามรีป่าและจามรีบ้าน โดยจามรีบ้านก็คือ จามรีที่คนเพาะเลี้ยงไว้เพื่อประโยชน์ต่างๆ ส่วนจามรีป่าก็คือจารมีที่อาศัยอยู่ในป่าซึ่งจะมีขนาดตัวและพละกำลังที่มากกว่าจามรีบ้านหลายเท่า ว่ากันว่าจามรีเป็นสัตว์ที่อึดถึกทนที่สุดตัวหนึ่งไม่เช่นนั้นคงไม่สามารถอาศัยอยู่ในพื้นที่เทือกเขาสูงและอากาศหนาวจัดได้ เรื่องราวน่ารู้ของจามรี และนี่ก็เป็นเรื่องราวความรู้ของสัตว์ที่เรียกได้ว่าเเข็งแรงที่สุดตัวหนึ่งของโลก รู้หรือไม่ว่านอกจากนี้แล้วจามรียังมีความผูกพันไปถึงวัฒนธรรมและความเชื่อของมนุษย์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อในพระพุทธศาสนา ที่มีการกล่าวถึงจามรีในเรื่องราวความอดทนของจามรีที่ได้เปรียบเทียบเป็นข้อคิดทางศาสนาพุทธ เช่น ประโยคที่บอกว่า […]
กระต่ายแองโกร่า ลูกบอลขนฟูมีชีวิต

สัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่จะทำให้ทุกคนหลงใหลในวันนี้เราอยากจะแนะนำเป็นกระต่ายแองโกร่า กระต่ายที่เรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์กระต่ายรุ่นดั้งเดิมที่เก่าแก่สายพันธุ์หนึ่ง กระต่ายแองโกร่า มีนิสัยที่ร่าเริงน่ารักน่าเอ็นดูที่มาพร้อมกับหน้าตา ขนฟูปุกปุย ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็จะต้องหลงรักไปทุกรายอย่างแน่นอน รู้จักที่มาที่ไปของ กระต่ายแองโกร่า กระต่ายแองโกร่า(Angora) นอกจากในเรื่องความเก่าแก่ของสายพันธุ์แล้วยังถือได้กระต่ายสายพันธุ์นี้เป็นกระต่ายที่ขนฟูมากที่สุดในโลก โดยต้นกำเนิดกระต่ายแองโกร่ามาจากเมืองหลวงแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี นั่นก็คือเมืองแองการ่านั่นเอง ซึ่งชื่อของเมืองนี้ก็เป็นที่มาของ กระต่างแองโกร่า ตัวนี้ด้วย นอกจากนั้นแล้วยังมีชื่อที่มาจากเมืองนี้ในสายพันธุ์อื่นอย่างเช่น แมวแองโกร่าและแพะแองโกร่า ที่โด่งดังไปทั่วทุกทวีปอีกด้วย โดยปัจจุบันเราสามารถแบ่งสายพันธุ์แยกย่อยได้เป็นทั้งหมด 5 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ฝรั่งเศษ สายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์เยอรมัน สายพันธุ์ซาติน และสายพันธุ์ไจแอนด์ ซึ่งความแตกต่างของแต่ละสายพันธุ์ก็จะแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อยแต่สิ่งที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของกระต่ายแองโกร่าในทุกสายพันธุ์ยั่นก็คือ ขนที่ฟูและยาว ลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของกระต่ายแองโกร่า เป็นกระต่ายที่ค่อนข้างเชื่องตัวหนึ่ง และตามนิสัยพื้นฐานกระต่ายเลี้ยงทั่วไปก็จะมีนิสัยซุกซน ชอบสำรวจ กระโดดไปมา แต่ก็รักความสงบและชอบเข้าสังคมอยู่ด้วยกันหลายๆตัว การเลี้ยงดูกระต่ายแองโกร่า สำหรับการเลี้ยงดูกระต่ายแองโกร่านั้นค่อนข้างเหมือนกับกระต่ายสายพันธุ์ทั่วไปแต่มีข้อที่ควรระวังนั่นก็คือ เนื่องจากกระต่ายแองโกร่าเป็นกระต่ายที่มีขนค่อนข้างฟูและยาว ทำให้เมื่อต้องมาอยู่ในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทย ควรจะระวังเรื่องอุณหภูมิและอากาศให้ดีๆ ไม่ควรให้อยู่ในสถานที่ที่ร้อนและอากาศไม่ถ่ายเทเพราะอาจจะทำให้เกิดอาการฮีสโตรกได้ง่าย สำหรับเรื่องอาหารก็เช่นเดียวกับกระต่ายทั่วไป คือกินหญ้าแห้งเป็นหลัก มีให้อาหารเม็ดและขนมผสมได้บ้างหรือในบางครั้งก็อาจจะให้เป็นผลไม้แต่ควรเลือกชนิดให้ดีๆเพราะหากทานผลไม้มากเกินไปอาจทำให้ร่างกายของกระต่ายเกิดปัญหาขึ้นได้ อ่านบทความเพิ่มเติมhttps://weluvpet.com/exotic/ เครดิตภาพhttps://google.com/ เครดิต ufabet ขั้นต่ํา 1 บาท น้ำเต้าปูปลาออนไลน์